งานนี้บอกเลยว่าเหมือน Apple กลืนน้ำลายตัวเองนะ เพราะจากก่อนหน้านเท่าที่เราเห็นราคากันคือ เปิดตัวมาทีก็สามหมื่นแล้ว วันนี้ iPhone 11 ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีในปีนี้ และพอช่วยพยุง Apple ให้ขึ้นมาจากอันดับที่ 4 ได้บ้าง เริ่มต้นที่ราคา 24,900 บาท ที่ถูกกว่า iPhone XR ที่อยู่ในระดับเดียวกันถึง 5,000 บาท และรุ่นที่น่าโดนที่สุดน่าจะเป็นรุ่น 128GB ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกที่สุด เพราะความจุ 64GB บอกเลยว่าในปัจจุบัน ยิ่ง iPhone 11 ด้วยแล้วถ่ายวีดีโอ 4K ได้ จบข่าวแน่นอน แนะนำให้ใช้งานรุ่น 128GB ขึ้นไป จะดีกว่า ไม่อึดอัด บอกเลยว่า Apple เล่นขายของ ขายเอากำไร ขายไม่ดูเพื่อน ขึ้นเอาๆ จนทำให้สุดท้ายก็ต้องลดลงมา ตอนแรกคืออันดับ 1 ตลอดไง มันก็ค่อยๆ ลดลงๆ และ Apple นายทิมนี่ล่ะ คงจะคาดการณ์ผิดหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจโลกเอง ทั้งพี่จีนที่อัดสเปคมาอย่างยาวนานหลายปี เทคโนโลยีบน Smartphone ที่ช่วงหลัง จีนหันไปเปิดตัวนำอเมริกามากมายหลายขุม คือถ้าเกมนี้ Apple ขึ้นราคาพร้อมอัดเทคโนโลยีเข้ามาก่อน พวกกล้อง 3 ตัว 4 ตัว เลนส์ซูม หรืออะไรต่างๆ ก็ตามแต่ เชื่อว่า Apple มีศักยภาพที่ทำได้ แต่ไม่ทำ เพราะเทคโนโลยีใหม่นั้น มีแต่ต้นทุนที่สูง กำไรไม่มาก ทำให้พ่อค้าอย่างทิม คุกที่เน้นแต่ยอดขาย และกำไร เดินเข้าสู่กับดักที่ตัวเองวางไว้ อย่างที่เราเห็นสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สุดท้ายก็ต้องเอาราคาลงมาสู้อยู่ดี ถ้าเอากำไรน้อยหน่อย แต่รักษาความเป็นผู้นำไว้ได้ เชื่อว่าฐานคนใช้งาน iPhone วันนี้ก็ยังชนะกับค่าย Android อื่นๆ นะ
ดังนั้น การที่คนใช้ iPhone จะโดนแซะ โดนแซวเรื่องเทคโนโลยีที่ล้าหลัง เพราะฝั่ง Android เอามาใช้งานกันหมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นความจริง ในแง่นวัตกรรม Apple สอบตกอย่างแรง แต่ในด้านการใช้งาน อย่างที่เคยบอกหลายครั้งแล้วล่ะว่า Apple ที่มี iOS นั้นเป็นระบบปิด ใช้งานยังไงก็ดีกว่า Android อยู่วันยังค่ำ ยิ่งเวลาผ่านไปนานๆ จะรู้เลยว่าเรือธงที่ว่าแจ่มๆ ทั้งหลายของ Android เครื่องอืดและเริ่มมีปัญหาจุกจิกเพิ่มขึ้น ในขณะที่ iOS บน iPhone นั้นยังเสถียรกว่า Apple สอบผ่านเรื่องการใช้งาน แต่มันก็ไม่ได้หนีกันมากนัก เพราะไม่นานนัก Android ก็ยัดสเปคเข้ามา และออกรุ่นใหม่มาทับอย่างไม่หยุดหย่อน บวกกับราคาที่มีผลกับการตัดสินใจซื้อของคนส่วนใหญ่ แม้คนที่มีกำลังซื้อในช่วงหลัง ก็หนีจาก iPhone มาก็มาก เพราะราคามันโอเว่อร์เกินไปจริงๆ หรือไม่ก็ยังอยู่กับรุ่นเดิมๆ ที่ยังใช้งานได้ดี ถามว่าวันนี้ Apple หันมาลดราคารุ่นใหม่นั้นดีไหม? ก็คงดีล่ะ แต่จะสู้ Android ทั้งหลายได้ไหม ก็ต้องดูกันอีกที เพราะทางฝั่ง Android เองก็เล่นแบบเดียวกัน เริ่มตั้งราคาซะโอเว่อร์ตาม iPhone แม้ว่าจะไม่ได้ตามไปติดๆ แต่ก็มีอัตราสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าปีนี้ iPhone ราคาสูงขึ้น เชื่อว่าปีหน้ารุ่นใหม่ๆ ของ Android ก็ขยับขึ้นอีกเช่นกัน
สำหรับ iPhone 11 ที่ยังมีกล้องเพียง 2 ตัวนั้น จริงๆ ในการใช้งานมันก็พออยู่แล้วล่ะ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีใครใช้ซูม 50-60 เท่าตลอดทุกวัน ถ้าไม่ได้ทำงานเฉพาะด้านจริงๆ หรือไม่ก็ใครจะไปถ่ายภาพมุมกว้างทุกภาพ ก็คงไม่ใช่ ฟีเจอร์ แต่จากที่ดูแล้วอย่างภาพกลางคืนนี่กว่าจะมาได้หายอยากเลย เชื่อว่าการลดราคาลงรุ่นละประมาณ 5,000 บาท ส่งผลให้ไม่ใช่แค่ iPhone 11 เท่านั้นที่ขายดี แต่บรรดา iPhone 11 Pro และ Pro Max นั้นก็น่าจะดีขึ้นด้วยเช่นกัน กล้อง 3 ตัว ยังตามฝั่ง Android แต่ก็คงพอแล้วล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวทิม คุกจะมีกำไรไม่คุ้ม พอพูดถึงเรื่องราคาลงนี่ก็คือ ผลกระทบของเครื่องมือสองที่ใครยังไม่ได้ปล่อยไปก่อนหน้านี้ รุ่นเก่าๆ นี่ เตรียมตัวเลย จากที่เคยเห็นว่าเครื่องมือสอง iPhone ส่วนใหญ่ราคาดี ไม่ตกมากนัก แต่ปีนี้ จะเป็นปีแรกที่เครื่องมือสอง iPhone ราคาดิ่งลงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะซีรีส์เมื่อปีที่แล้ว ทั้ง iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max งานนี้ใครรออยู่ ก็เตรียมช้อนมือสองราคาดีๆ ได้เลย ผมว่าผู้ใช้งาน Android อีกส่วนนึงอาจจะหนีมา iPhone โดยเฉพาะกลุ่มน้องๆ นักศึกษา ที่เล่นเกม ยังไงซะ iPhone ก็เล่นเกมได้ลื่นกว่านะ ใช้งานก็ลงตัว เหลือปัญหาเดียวก็คือแบตที่อาจจะลดฮวบไปสักหน่อยแค่นั้นเอง ว่าแล้วปีนี้ใครที่ถือ iPhone รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัปเดท iOS ได้ หรือเป็น gen สุดท้ายที่จะอัปเดทได้แล้ว ก็เตรียมเปลี่ยนได้เลย ยังไงก็ราคาดีและคุ้มค่าอย่างแน่นอน จริงๆ มีประเด็นเรื่องกันน้ำด้วยนะ แปะไว้ก่อนละกันยาวละ บายๆ ครับ ผมเดาว่าในไทยเจอกันต้นตุลาคม อาจจะเปิดจองอาทิตย์แรก และรับเครื่องในอาทิตย์ถัดไป งานนี้ Apple ไม่รอช้าหรอกผมว่า เพราะยังมี Android จ่อคิวแย่งคนใช้งานอยู่นะ
ถูกใจบทความนี้ 3
You must be logged in to post a comment.