รีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ (ฉบับมินิ)

ได้ฤกษ์มารีวิวสักหน่อย  รุ่นล่าสุดของ Samsung ที่ตั้งแต่เปิดให้กล้าท้าจอง จนมีโปรโมชั่นต่างๆ ออกมา ในวันที่รับเครื่องก็มีคนไปต่อคิวกันอย่างมากมาย สมกับความเป็นเรือธงของ Samsung  เจ้า Samsung Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ เรียกว่าเป็น Major Change ด้านดีไซน์ เป็นการเริ่มเจนใหม่ รวมถึงมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ในฉบับมินิ ก็จะขอเอาความรู้สึกจากการใช้งานได้สักระยะมาบอกเกล่าเล่าสิบกันสักหน่อยก็แล้วกันครับผม

ด้านสีสัน หรือดีไซน์ คือเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิม และสีก็มาพร้อมกับซีรีส์ Aura ทั้ง 3 สีที่วางขายก็สวยงาม สีฮีโร่ก็คือสี Glow นี่ละ ส่วนบน Note 10 ก็น่าจะเป็นสี Aura Pink นั่นเอง

ส่วนด้านสเปค ลองดูสเปคจากเว็บ Samsung ได้เลย เรือธง ระดับนี้ ด้านสเปคคงไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเอาไปใช้งานด้านกราฟิค หรือเล่นเกม ได้หมด ทั้ง CPU Octa-Core แม้ว่าจะไม่ใช่ Snapdragon อย่างที่มีคอมเม้นต์แต่สำหรับ Exynos ก็แรงตอบโจทย์ได้ไม่แพ้กัน ส่วนตัวแล้วก็เอามาเล่นเกม คือก็ยาวๆ ไป RAM จัดมาเต็ม 8GB สำหรับ Galaxy Note 10 และ RAM 12GB สำหรับ Galaxy Note 10+

แบตก็อึดพอสมควร ที่บอกว่าพอสมควรเพราะ แบตจะไหลก็ต่อเมื่อมีการใช้งานนานๆ สังเกตุเห็นได้ชัด เมื่อตอนใช้ถ่ายวีดีโอ 4K (เครื่องไหนก็ร้อน) จริงๆ ไม่ต้อง 4K ก็ได้นะครับ เอาเป็นถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป ใช้ระยะเวลานึงจะรู้ว่าความร้อนเริ่มมา แบตเริ่มไหล แบตที่ให้มา 4300 mAh นั้นก็ต้องรอให้ระบบเรียนรู้สักพักนึงการใช้งานทั่วๆ ไป ถึงจะหยุดไหล ส่วน Galaxy Note 10 มีแบต ที่ 3500 mAh แม้ว่าหน้าจอจะเล็กกว่า แต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ถึงยังไงเค้าก็ยังมาพร้อมกับการชาร์จไวนะ ซึ่งก็ช่วยในการใช้งานได้จริง

กล้องและฟีเจอร์ มีอะไรใหม่ๆ มาบนเรือธง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่ที่สุด เพราะกล้อง 3 ตัวด้านหลัง เคยออกมาก่อนหน้านี้แล้วหลายรุ่น แต่ที่มี ToF วัดระยะนั้น เพิ่งจะมีบน Galaxy Note 10+ นี่ล่ะ ดังนั้นด้านการวัดระยะ การถ่ายภาพ Galaxy Note 10+ กินขาด อันนี้ภาพแจ่มจริงๆ ที่เป็นลูกเล่นนอกจากพวกการถ่ายภาพต่างๆ แล้ว สำหรับงานนี้คือเรื่องการถ่ายวีดีโอ ซูมไมค์ ที่ได้ใช้แน่นอน เพราะไม่มีช่องเสียบไมค์ตรงๆ ต้องอาศัยอุปกรณ์ต่อพ่วง นอกจากนั้นยังมีขีดเขียนลงไปในวีดีโอ ได้อีกด้วย เรียกว่า เป็นการใช้ปากการ่วมกับการถ่ายวีดีโอได้เป็นอย่างดี แต่นิดนึงก็คือ กลายเป็นว่า Samsung ได้แยกซีรีส์ S ให้เด่นด้านกล้องด้านหน้า และซีรีส์ Note คงมีแค่กล้องหน้าตัวเดียวเท่านั้น

ด้านปากกา S Pen ที่มีการเขียนที่่สมบูรณ์อยู่แล้ว เพิ่มการใช้งานร่วมกับการถ่ายวีดีโอ แล้วก็ยังมีเรื่องการแปลงจากลายมือภาษาไทยเป็นตัวอักษรพิมพ์ได้ด้วย (ใน Samsung Note) อันนี้ถือว่าแจ่ม อื่นๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเหมือนกับการใช้งาน S Pen ทั่วๆ ไปนั่นล่ะครับ สำหรับคนที่เน้นด้านการเชียน หน้าจอของ Galaxy Note 10+ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกว่านะ

 

การใช้งานอื่นๆ  อาทิเช่นการส่งผ่านไฟล์ไปยัง Windows ผ่าน Link to windows และ Dex ที่ไม่ต้องผ่าน dock อีกต่อไป ทำให้การทำงานแบบโมบายได้อย่างลงตัว นอกจากจะเชื่อมต่อออกหน้าจอใหญ่ได้แล้ว เวลาที่ไม่สะดวก ก็ยังถ่ายโอนไฟล์ไปใช้งานบนเครื่องหลักได้อีกด้วย นับว่าเป็นการออกแบบการใช้งานให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้ดีจริงๆ

ด้านความปลอดภัย การใช้งานอย่างนึงที่เปลี่ยนไปจากรุ่น Note เดิมก็คือการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ มีความแม่นยำในระดับนึง เอาจริงๆจุดเด่นของเขาเลยก็คือเรื่องกรณีการสแกนนิ้วมือตอนที่หน้าจอเป็นรอยเยอะๆ หรือเปียกน้ำอะไรประมาณนี้ ชื้นๆ ก็ยังสแกนได้ แต่คงไม่ต้องไปเทียบกับคนอื่น เอาเทียบกับ Note 9 เดิมๆ ก็ต้องบอกว่าแบบเดิมดีกว่าและชัวร์กว่า ความเร็วต่างกันระดับวินาทีมันก็ไม่ได้รู้สึกมากนัก แต่อย่างนึกที่ทดแทนได้คือการสแกนใบหน้า แต่ก็อีกนั่นล่ะ ที่แอบขัดใจก็คือการเอาสแกนม่านตาเดิม ที่เคยเป็นฟีเจอร์เด่นใน Note รุ่นก่อนออกไป ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใด ก็ตามแต่ การที่เรือธงถูกตัดฟีเจอร์บางอย่างออกไป มันก็ดูไม่สมศักศรีก็แค่นั้น (จริงๆ ไม่ได้มีแค่ Note 10+) นะที่เป็น มีเรือธงค่ายอื่นๆ ก็เป็นอาการเดียวกัน ถ้าให้เดาก็อาจจะเป็นเรื่องต้นทุนอะไรพวกนี้ล่ะ แต่ก็เอาน่ะ แค่มีสแกนใบหน้านี่ก็ถือว่าทำให้การใช้งานสะดวกแล้วล่ะ

จุดต่างอีกนิดนึงก็คือบน Galaxy Note 10 ใส่เมมเพิ่มไม่ได้นะ

สรุปความน่าใช้งานสำหรับ Samsung Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+

โดยภาพรวมแล้ว ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรือธงในช่วงปลายปีที่หลายคนรอคอย คำถามก็อาจจะมี สำหรับคนที่ใช้ Note รุ่นเดิมอยู่ จะว่าไปก็ควรเปลี่ยนเพราะดีไซน์มันก็เปลี่ยนแล้ว แน่นอนว่าสเปค หรือฟีเจอร์มันพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน การใช้งานสำหรับคนที่ติดเรื่อง Note ยังไงก็ตอบโจทย์ ด้านกล้องก็ไม่ต้องพูดถึงคะแนนก็ดี การใช้งานจริงก็ดี ภาพก็สวยด้วย สำหรับการเลือกใช้งานระหว่าง Galaxy Note 10+ และ Galaxy Note 10 จุดต่างมีไม่มากนัก ที่สำคัญคือเรื่องหน้าจอ และขนาดแบต กล้อง อ้อ และก็ช่องใส่ซิมด้วยที่ต่างกัน จะมีข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ แต่ใจจริงคืออยากได้จัดเต็มแบบ Galaxy Note10+ แต่ขอขนาดเท่ากับ Galaxy Note 10 จะดีมากเลย เสียดายมันคร่อมกันซะนี่ เอาเป็นว่าหากราคาไม่ใช่ปัญหา จัดเต็ม Galaxy Note 10+ ที่ 37,900 ได้เลย สำหรับรุ่น 12/256GB หรือเพิ่มอีกนิดนึง ที่ 40,900 บาทจัดไป 12/512GB แต่ถ้ารักขนาดเล็กพกง่าย Galaxy Note 10 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ราคาน่าคบ 32,900 บาท 8/256GB ไม่ต้องเลือกขนาดความจุนะ

 

ภาพเพิ่มเติม

สนใจก็ลองไปดูเงื่อนไขต่างๆ ได้ที่หน้าเพจของ Samsung นะครับ มีทั้งเรื่องการรับประกัน การผ่อน 0% และอื่นๆ

 

ขอบคุณ Samsung ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบจ้า



ถูกใจบทความนี้  4