รีวิว Xiaomi Mi Smart Band 5 สมาร์ทแบนด์ สุดฉลาด พร้อมอัพเกรด ทุกความเคลื่อนไหว

มาแล้วครับ Xiaomi Smart Band 5 หลังจากที่ใช้มาจนเรียกว่าพรุน ไม่สิ ก็ใช้ตามปกตินี่ล่ะ จนได้ที่ละ ทั้งใส่เดิน วิ่ง นอน ปั่น ว่าย งีบหลับ และทดสอบแบตเตอรี่จนแน่ใจว่ามันแจ่มจริงหรือเปล่า  เลยจับเอาเจ้า Xiaomi Mi Band 5 หรือ Mi Smart Band 5 มาบอกเล่าเก้าสิบกันเช่นเคย จะว่าไปรุ่นนี้ก็อัพเกรดกันมาไม่น้อยเหมือนกัน แต่ฟังก์ชั่นพื้นฐานก็ไม่หนีจาก Mi Band 4 ไปสักเท่าไหร่นัก และเปิดขายในไทยถือว่าเร็วนะ ผมสั่งจากจีนป่านนี้ยังไม่ได้เลย ตั้งแต่พรีออเดอร์ ราคาแพงกว่าเปิดตัวในบ้านเราอีก แต่ตัวนี้ที่ได้มาก็ร้านในไทยนี่เอง ฮ่ะๆ เอาเป็นว่า เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรแจ่ม ยังไงกันบ้าง และเทียบกับรุ่นเดิมๆ จะดีไม่ได้ยังไง มาตามกันได้เลย

จริงๆ ชื่ออย่างเป็นทางการเค้าเป็น Mi Smart Band 5 แล้วนะ แต่ก็ยังติดปากเรียกว่า Mi Band 5 จริงๆ มัน Smart มาตั้งแต่รุ่น 4 นั่นล่ะ ที่เค้าเริ่มเปลี่ยนชื่อ เอาเป็นว่าก่อนอื่นมาดูรายละเอียดของเค้ากันหน่อย อ้อ ร้านที่ผมได้มาจากร้าน Thai Super Phone นะ คนที่ชอบเล่น Xiaomi น่าจะพอรู้จักกันอยู่ หาซื้อได้ ตอนนี้ราคาทางการที่เปิดตัวคือ 1190 บาท แต่ราคาหน้าร้านก็จะมีแตกต่างกันไปลองดูละกันนะครับผม ตอนนี้ต่ำกว่าพันก็หาได้แล้วล่ะ

จอแสดงผล:  AMOLED 1.1 นิ้ว  ความละเอียดของจอแสดงผล: 126*294, ความลึกของสีจอแสดงผล: 16 บิต, แบ็คไลท์จอแสดงผล: ความสว่างสูงสุด ≥ 450 Nit สามารถปรับได้,ปุ่มแสดงผล: ปุ่มสัมผัสเดียว (เรียกจอ, ย้อนกลับ) , กระจกเสริม 2.5D และการเคลือบ AF
ขนาด : 46.95 × 18.15 × 12.45 มม. น้ำหนัก 11.9 กรัม
เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์ 6 แกน: ตัววัดความเร่ง 3 แกนและไจโรสโคป 3 แกนอัตราการกินไฟต่ำ, เซ็นเซอร์อัตราการเต้นของหัวใจ PPG, ไมโครโฟน MEMS ดิจิตอล
แบตเตอรี่ : 125 mAh การชาร์จระบบแม่เหล็ก, เวลาในการชาร์จ: < 2 ชั่วโมง, อายุการใช้งานแบตเตอรี่: ≥ 14 วัน
โหมดกีฬา : การวิ่งกลางแจ้ง, การเดินเร็ว, การปั่นจักรยาน, การวิ่งในร่ม, การว่ายน้ำในสระน้ำ, ฟรีสไตล์, การปั่นจักรยานในร่ม, เครื่องเดินวงรี, กระโดดเชือก, โยคะ, Rowing Machine, รองรับการตรวจจับการวิ่งหรือการเดิน การเตือนเพซ การเตือนกิโลเมตรที่ผ่านไป การเตือนอัตราการเต้นของหัวใจสูง
โหมดสุขภาพ : การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ: อัตราการเต้นของหัวใจตลอดวัน อัตราการเต้นของหัวใจที่กำหนดเอง,  อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก และกราฟเส้นโค้งของอัตราการเต้นของหัวใจ,  การติดตามการนอน: การนอนหลับลึก, การนอนหลับปกติ, การนอนหลับแบบลูกตากรอกตัวอย่างรวดเร็ว (REM), การงีบ, การติดตามข้อมูลสุขภาพสำหรับผู้หญิง: มีระบบบันทึกและการเตือนความจำสำหรับรอบประจำเดือนและระยะตกไข่, การวัดความเครียด, การฝึกหายใจ, การประเมินดัชนีกำลังกาย PAI, การเตือนให้เคลื่อนไหว, ตัวนับก้าว, การตั้งเป้าหมาย
คุณสมบัติอื่นๆ  : การถ่ายภาพจากระยะไกล, การเล่นเพลง, ค้นหาโทรศัพท์ของฉัน, การปิดเสียงโทรศัพท์, การปลดล็อคโทรศัพท์, การแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ห้ามรบกวน, การแจ้งเตือน WhatsAPP, การเตือนข้อความแอป, ตัวเตือนปฏิทิน, ตัวเตือนกิจกรรม, พยากรณ์อากาศ, นาฬิกาจับเวลา, นาฬิกานับถอยหลัง, การปลุก, การแพร่ภาพผ่าน Bluetooth, หน้าปัดออนไลน์, หน้าปัดแบบกำหนดเอง, หน้าปัดที่ตั้งค่าล่วงหน้า, การล็อกหน้าจอ, การแสดงความคืบหน้าการชาร์จ, การสวมใส่ที่เลือกได้, การอัปเกรด OTA

สเปคเต็มๆ ดูที่ Mi Thailand

ในกล่องที่ให้มาก็จะมีประมาณนี้เลยครับ มีตัวเรือน ตัวสายชาร์จ และคู่มือ แค่นั้นเลย

กล่องก็มีขนาดเท่ากับ Mi Smart band 4 เลย ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ถ้าสังเกตุคนใช้งานรุ่นก่อนหน้านี้ กล่องนี่เพิ่งมาเปลี่ยนดีไซน์ได้ไม่กี่เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมานะ ด้านข้างก็บอกฟีเจอร์เอาไว้ครบ แต่เป็นภาษาจีน ถ้าเป็นของศูนย์ จะเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากตัวนี้เป็น China version ซึ่งรองรับการแสดงผลภาษาไทยเรียบร้อย (ยกเว้นเมนู) ต้องรออัพเกรดอย่างเป็นทางการอีกที แต่อาจจะนานหน่อย แต่ถ้าเป็น Global Version ที่เป็นศูนย์ไทย คือรองรับได้แน่อน

มาดูรูปทรงกันหน่อย เอาจริงๆ รูปร่างหน้าตาแทบจะไม่ต่างจาก Mi Smartband 4 เลยก็ว่าได้ล่ะมั้ง มีเรื่องขนาดที่แตกต่างกันนิดหน่อย     หน้าจอที่เป็น AMOLED มาแก้ปัญหาเรื่องแพ้แสงแดด แต่แน่นอนว่ากินแบตเพิ่มนะ อันนี้ลองแล้ว ผมเปิดทุกอย่างสูงสุดที่ 5 วัน


ด้านข้าง มีขนาดหนานิดนึง แต่น้ำหนักก็เบาเหมือนเดิม

สายก็เป็น TPU ใส่สบาย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า คำถามคือ สายรุ่นเก่าจะใช้งานร่วมได้ไหม ผมลองใส่มาแล้วเดือนนึงเต็มๆ ได้ชัวร์ แต่มันจะฟิตไปสักหน่อยนะ ยังไงใช้สายตรงรุ่นดีกว่า

ด้านเซ็นเซอร์ คือเค้ามีการปรับปรุง มาพอสมควร ผมใส่มานานหลายปีตั้งแต่รุ่นแรกเลยก็ว่าได้ เก็บรีพอร์ทพวกการนอนต่างๆ มาตลอด ซึ่งต้องบอกว่า Mi Smart Band 5 มีการปรับปรุงให้ฉลาดขึ้น ตามชื่อจริงๆ สามารถวัดงีบในช่วงเวลากลางวันได้ด้วย เดี๋ยวนี้ใครวัดไม่ได้อายเค้าแย่เลยนะ

ส่วนตัวชาร์จจะกลายเป็นแถบแม่เหล็กดูดกับ ที่เป็นขั้วคอนแทคสัมผัส งานนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการชาร์จอย่างแน่นอน

ด้านข้าง หากถอดออกมาจากสาย ก็จะมีซีเรียลและรุ่น สลักติดเอาไว้

ภาษาไม่ใช่ปัญหา เพราะเมื่อซิงค์ครั้งแรกกับ Mi Fit แล้ว จะสามารถเปลี่ยนภาษาเมนูเป็นภาษาอังกฤษได้ และภาษาไทยก็รองรับอยู่แล้ว เพียงแต่เมนูยังไม่ใช่ภาษาไทย แต่พวกข้อความต่างๆ รับได้หมด

ลองเปรียบเทียบขนาดกันสักหน่อย พัฒนาการจากรุ่นแรกๆ ถ้าผมจำไม่ผิดคือ Mi Band 1S รุ่น 1 จริงๆ จะไม่มีสถานะไฟ ก็พัฒนาเรื่อยมา ขนาดก็ใหญ๋ขึ้นเรื่อยๆ มีการแสดงผลดีขึ้น วัดด้านสุขภาพได้มากขึ้น รวมถึงเรื่องกีฬา

ด้านสายชาร์จก็พัฒนาเรื่อยมาเหมือนกัน จนสุดท้ายเป็นขั้วแม่เหล็กดูดกันหนึบๆ ไม่จำเป็นต้องถอดออกมาจากสายอีกต่อไป

มาเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมหน่อย

ขนาดหน้าจอ ที่ใหญ่กว่า และแสดงผลได้มากกว่า แน่นอนว่า สว่างและคมชัด และมีสีสันมากกว่าเดิม กระจกเสริม 2.5D และการเคลือบ AF กันรอยนิ้วมือเพิ่มเติมขึ้นมาก พวกไอคอนต่างๆ ก็มีการอัพเกรด ปรับเปลี่ยนให้ดูดีมากขึ้น

 

ส่วนขนาดโดยภาพรวมแล้ว ต่างกันเป็นมิลลิเมตร ด้านข้างก็แทบจะไม่ต่างกันเลย คือน้อยมากนะ ถึงบอกว่าสายมันใส่ด้วยกันได้นั่นล่ะ  Mi Smart Band 5 มันใหญ่กว่าไปนิดนึง

ส่วนของเซ็นเซอร์ที่แน่นอนว่า Mi Smart Band 5 จัดมาให้มากกว่า แต่ถ้าดูจากรูปร่างแล้ว มีการปรับลดความยาวส่วนของเซ็นเซอร์การวัดหัวใจ เข้าใจว่าเพราะการเปลี่ยนการดีไซน์ด้านในนั่นล่ะครับ


ส่วนสายรัดข้อมือที่ทำมาจาก TPU ถ้าดูเผินๆ หรือดูจากตาเปล่าแทบไม่ต่างกันเลยนะ

ที่ชอบรุ่นนี้ก็คือ ไม่ต้องถอดออกมาเพื่อชาร์จกับแท่นชาร์จอีกต่อไป ใช้สายต่อด้านหลังได้เลย ถือว่าแจ่ม

 

มาลองใส่ใช้งานจริงกันดีกว่านะ

การแสดงผลจะเห็นว่าสีสันเพิ่มเติมมากขึ้น และหน้าจอ AMOLED ที่ใช้งานกลางแดดได้สบาย ปรับแสงสว่างได้

สามารถดูค่าต่างๆ ได้เลย และมี PAI ที่เพิ่มเติมขึ้นมา คือคะแนนที่วัดว่าสุขภาพเราดีขนาดไหน อันนี้ก็ถือว่าเอามาตรฐานใหม่เข้ามาใช้งานได้อย่างลงตัวนะ

การแสดงผลภาษาไทยเต็มรูปแบบ ไม่ต้องเป็นห่วง และบรรทัดที่แสดงผลก็เรียกว่ายาวๆ กันไปครับ

มีโหมดที่ฝึกลมหายใจ อันนี้ก็น่าจะเป็นเบสิคของพวก Smartband ในยุคหลังๆ มีกันเยอะละ สำหรับ Xiaomi นี่เพิ่งมาใน Mi Smart Band 5

แสดงสภาพอากาศได้ ดูล่วงหน้าได้หลายวันเลยล่ะ ข้อมูลนี้ต้องซิงค์กับ Mi Fit ด้วยนะ

อีกฟีเจอร์นึงที่มีให้เล่นก็คือควบคุมเพลง ควบคุมปรับลดเสียง เล่นเพลงถัดไปก่อนหน้าได้หมด แต่ปุ่มเร่ง ลดเสียงจะดูเล็กไปหน่อย และของใหม่อีกอันก็คือ ชัทเตอร์ สามารถช่วยเป็นรีโมทชัทเตอร์ที่เอาไว้กดถ่ายภาพได้ด้วย อันนี้สะดวกดี


Watch face สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย จะมีทยอยให้ดาวโหลดกันฟรีๆ สามารถปรับได้เองบนตัวเรือนเลยนะ (แต่ต้องเลือกโหลดลงมาเก็บเอาไว้ก่อนโดยผ่าน Mi Fit) จะมี default ให้เลือกตอนแรกไม่กี่อัน


ที่ประทับใจก็การแสดงผลทั้งกลางวันกลางคืน ชัดเจนเปลี่ยนจริงๆ

มาดูเรื่องแอป Mi Fit และการใช้งานเพิ่มเติม

Mi Fit ใช้งานได้ทั้งบน Android และ iOS ไม่ได้จำกัดเฉพาะบน Xiaomi Smartphone เท่านั้น เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ที่รองรับการแทรคทั้งความเครียด ค่า PAI ผมเรียกมันว่าค่าความฟิต และก็การนอนหลับที่แทรคเรื่อง REM และงีบได้

การนอนหลับกลางวัน หรืองีบหลับ ก็แทรคได้ อันนี้ชัดเจน ค่า PAI ก็มีอธิบายเอาไว้ในแอปนะ รวมถึงความเครียด ก็สามารถติดตามได้ ถ้าเปิดฟีเจอร์พวกนี้หมด แบตก็สูบเอาเรื่อง อย่างที่เกริ่นไว้คือแบตอยู่ได้ประมาณ 5 วัน จากสเปคที่ว่าเกิน 14 วัน อันนั้นคงเป็นการทดสอบจากห้องทดลอง มาใช้งานจริงคือแบตยิ่งอึดน้อยกว่ารุ่นก่อน

เอาไปใส่ว่ายน้ำ วิ่ง ปั่น ที่สำคัญคือ มีกระโดดเชือกด้วย ผลออกมาคือ ก็ตามนี้ครับ

วิ่งคือแทรคได้ตามปกติ ก็จะอาศัย GPS จาก Smartphone ระหว่างวิ่งก็จะมีการเตือนครบกิโล ตามเป้าหมาย หรือว่าจะมีการเตือนเรื่องของการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ หรือที่มากกว่าที่ตั้งเอาไว้ ก็ถือว่าโอเค และรายงานต่างๆ ก็ถือว่าครบเลย มีระดับความสูงและ VO2 Max ด้วยนะ

การปั่นก็คล้ายกับวิ่งมีเหมือนเดิม

การว่ายน้ำก็แทรคได้ดีนะ ว่ายท่าผสมก็ยังไหว จะแทรคเอารายงานท่าที่เราว่ายมากที่สุดเป็นหลักนะ แต่เรื่องระยะทางแอบไม่ตรง มีเพิ่มมากขึ้นเฉยเลย

กระโดดเชือก อันนี้ก็เพิ่มรอบโดดมาให้ซะอย่างนั้น

อื่นๆ การตั้งค่า ที่สำคัญก็จะมีการเลือก watch face อยู่ในเมนูร้านค้า มีให้เลือกพอสมควร สีสันสดใส ยังไม่เห็นที่เป็น custom นะครับ แต่เห็นมีเพื่อนๆ ในกลุ่มเฟสบุ๊คทำได้ด้วย อันนี้ยังหาไม่เจอ ก็ค่อยว่ากัน

พวกการแจ้งเตือนต่างๆ ก็ยังมีครบถ้วน

อย่าลืมเปิดการวัดต่างๆ เช่นความเครียดต้องมาเปิดก่อน พวกมอนิเตอร์กิจกรรม หรือการเตือนอัตตราการเต้นของหัวใจ ก็เช่นกัน ต้องมาเปิดใช้งาน และตั้งค่า และสามารถตั้งได้ด้วยว่าจะให้ถี่ขนาดไหน ถ้าถี่มากๆ ก็กินแบตล่ะครับ งานนี้

ส่วนการตั้งค่าการใช้งานกล้อง ที่เป็นปุ่มชัตเตอร์ ก็เช่นเดียวกัน ต้องมาเปิดการตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนใช้งานด้วย

 

สรุปภาพรวม Xiaomi Mi Smart Band 5

จากการทดสอบใช้งานจริงจังมาพักใหญ่ ก็พบว่ามีการพัฒนาขึ้นหลายจุด อย่างที่รู้กันล่ะครับ ตามที่โฆษณา เรื่องการหลับที่แทรคได้ละเอียดขึ้น มี REM มีการงีบ ก็ถือว่าดี การแทรคหัวใจตลอดวันอันนี้ได้อยู่แล้ว เพิ่มเรื่องความเครียดมา เพิ่มเรื่อง PAI แต่ที่ยังสงสัยคือ การวัดรอบเดือนของคุณผู้หญิง ยังไม่แน่ใจว่าวัดยังไงหรือต้องเป็นเวอร์ชั่น Global ก็ไม่แน่ใจครับอันนี้ เรื่องแบตเตอรี่บอกเลยว่าอึดน้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ก็แลกมาด้วยความฉลาดนั่นเอง ดีไซน์และการสวมใส่อันนี้ภาพรวมๆ ดีอยู่แล้ว กันน้ำ ใส่ว่ายน้ำได้ ไม่พังแน่นอน แทรคกีฬาได้เพียบ พื้นฐานครบ มีกระโดดเชือกด้วย แต่อันนี้คือก็แอบไม่ตรงนะ รวมถึงการว่ายน้ำก็มีเรื่องของระยะทางที่เกิน เหมือนกับทาง Xiaomi จะต้องจูนเรื่อง โมชั่นให้ละเอียดมากขึ้น เพราะมีการแทรค 6 แกน ที่ดีกว่าเดิมอาจจะทำให้เพี้ยนๆ ได้ อีกอันคือแบตเตอรี่ บอกเลยว่า ถ้าออกกำลังกายด้วยและเปิดทุกอย่างเต็มๆ ทั้งหน้าจอที่จัดเต็ม ก็ 5 วัน ชาร์จที สำหรับผมถือว่าน้อยนะ กับเมื่อก่อนที่เกินอาทิตย์นึงหรือมากกว่านั้น แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่าแลกมาด้วยฟีเจอร์มากมาย มีประโยชน์เพิ่มขึ้น ในระดับราคานี้ผมว่าก็ยังน่าสนใจ ตกเดือนละร้อยบาท ถ้าราคาศูนย์นะ ใครที่สนใจ ก็มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว และผมได้มาจากร้าน Thai Super Phone นะ มีทั้งศูนย์ที่ราคาเบาลงมาหน่อยถ้าไม่ซีเรียสเรื่องเมนูอังกฤษ ศูนย์ไทยก็ได้อยู่แล้วล่ะ เมนูมันมีครบเหลือแค่อัพเดทเฟิร์มแวร์ให้ใช้งานได้แค่นั้นเอง



ถูกใจบทความนี้  119