จากข้อมูลข้างต้น เราจะพบว่าประชากรไทยมีการออมเงินที่น้อยมากจริงๆ (ทั้งนี้ไม่นับรวมผู้ที่มีการออมเงินในรูปแบบอื่นเช่นการลงทุน ประเด็นที่น่าสนใจคือถ้าผู้ที่มีศักยภาพในการออมเงินในรูปแบบอื่น อนุมานว่าควรมีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์มากกว่า 5 หมื่นขึ้นไปอย่างแน่นอน) เพราะฉะนั้นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่ม 86% ซึ่งนับเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศและสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันยิ่งน่าเป็นห่วงกลุ่มที่อยู่ในภาวะเสี่ยงนี้ เคล็ดลับในการออมเงินนั้น มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ‘เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ’ เป็นวลีสั้นๆ ที่แฝงไปด้วยความหมายอันแยบคาย นั่นคือเคล็ดลับการออมเงินที่ง่าย และทำได้จริง นั่นคือเมื่อเรารับเงินมาแล้ว ให้เราแบ่งออมส่วนหนึ่งก่อน และเหลือจากที่ออมแล้ว จึงค่อยนำไปจับจ่าย และหากเหลือจากการจับจ่ายแล้วก็เอาเงินนั้นกลับเข้ามาออมอีกทีหนึ่ง เป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ ที่จะเก็บออมในขณะที่เราเองก็มีภาระหนี้สิน แต่การออมนั้นสามารถเริ่มได้ แม้เรายังอยู่ในภาวะนั้น ปัจจุบันมีข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ มากมาย ทั้งกลเม็ดวิธีในการออม ขอเพียงทุกท่านเริ่มลงมือ และมีวินัยกับการออม แม้เริ่มต้นจะออมได้ไม่มากแต่รับรองว่าเพื่อนๆ จะภูมิใจ และความภูมิใจนั้นจะทำให้เราเริ่มทำไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ จากสิบเป็นร้อยเป็นพัน และเป็นหมื่นเป็นแสนได้แน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันครับ