ทรู 5G ทำสถิติใหม่ ครองแชมป์ครบทุกมิติ “เครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย ปี 2565” 

ทรู 5G ทำสถิติใหม่ ครองแชมป์ครบทุกมิติ “เครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย ปี 2565”  การันตีจากผู้ใช้งานจริงตลอดทั้งปี จากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลก nPerf ฝรั่งเศส ย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อเป็นที่สุดของเครือข่ายอัจฉริยะ ตลอด 7 ปีซ้อน

    

       เพราะไม่หยุดเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง … ทรู 5G ที่สุดของเครือข่ายอัจฉริยะ ที่เติมเต็ม Your Everyday Connect Tech Living ครองแชมป์เครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย 7 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2565 จากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รวบรวมผลสำรวจจากผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่  1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2565 โดย ทรู 5G ทำสถิติใหม่ ครองแชมป์ครบทุกด้าน   ทั้งความสำเร็จในการเชื่อมต่อ ความเร็วดาวน์โหลดและอัปโหลด ความหน่วงต่ำ คุณภาพการเปิดเว็บ และคุณภาพสตรีมมิ่งรับชมวิดีโอยูทูป ตอกย้ำความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะพัฒนาคุณภาพโครงข่ายที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยต่อไป

 

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่ลูกค้าผู้ใช้งานจริงได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการใช้งานเครือข่ายทรู 5G ในทุกมิติตลอดปี 2565 พร้อมสะท้อนออกมาเป็นคะแนนรวมสูงสุดทุกด้าน จนได้รับการจัดอันดับให้ทรู 5G เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้รับ
การันตีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2565 ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจของกลุ่มทรูที่มุ่งเดินหน้าพัฒนาเครือข่าย 5G เพื่อเป็นที่สุดของเครือข่ายอัจฉริยะ เติมเต็ม Your Everyday Connect Tech Living ของทุกคน และภายหลังจากการรวมธุรกิจที่มีการผนึกกำลังกัน รวมทั้งโรมมิ่งสัญญานข้ามโครงข่ายครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย จะยิ่งยกระดับประสบการณ์ด้านคุณภาพบริการสัญญาณมือถือของลูกค้าทั้งทรูและดีแทค ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

จากผลสำรวจผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2565 นี้ จำนวน 1,800,000 ครั้ง ทรูมูฟ เอช ได้คะแนนรวมสูงสุด ครองความเป็นผู้นำรอบด้าน ครบทั้ง 6 หมวดของการทดสอบ ได้แก่ 1. ความสำเร็จในการเชื่อมต่อดีที่สุด (Success ratio) 93.16% 2. ความเร็วดาวน์โหลดดีที่สุด (Download bitrate) 76.21 Mb/s 3. ความเร็วอัปโหลดดีที่สุด (Upload bitrate) 23.04 Mb/s 4. ค่าความหน่วงต่ำดีที่สุด (Latency) 27.27 ms 5. คุณภาพการเปิดเว็บดีที่สุด (Web browsing) 67.25% และ 6. คุณภาพการสตรีมมิ่งรับชมวิดีโอยูทูปดีที่สุด (YouTube streaming) 87.58% นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา nPerf ยังมีการทดสอบเพิ่มเจาะจงเฉพาะเทคโนโลยี 5G บนเครื่อง Android ผลปรากฎว่า ทรู 5G ยังคงครองแชมป์ ด้วยคะแนนรวมสูงถึง 130,171 คะแนน ชนะใน 5 หมวด ได้แก่ ความสำเร็จในการเชื่อมต่อดีที่สุด (Success ratio) 98% ความเร็วอัปโหลดดีที่สุด (Upload bitrate) 49.20 Mb/s ค่าความหน่วงต่ำดีที่สุด (Latency) 15.84 ms คุณภาพการเปิดเว็บดีที่สุด (Web browsing) 79.94% และคุณภาพการสตรีมมิ่งรับชมวิดีโอยูทูปดีที่สุด (YouTube streaming) 92.83% ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดูแลและพัฒนาคุณภาพของเครือข่ายอย่างไม่หยุดยั้ง รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ตามความชอบและไลฟ์สไตล์   ที่แตกต่างเพื่อสร้างอนาคตที่ดียิ่งกว่าด้วย 5G เทคโนโลยี ที่ยั่งยืนและดีที่สุดสำหรับอนาคตของทุกคน เพื่อส่งมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดให้แก่คนไทยนั่นเอง” นายมนัสส์ กล่าวสรุป

 

 

เกี่ยวกับ nPerf

คือ เครื่องมือเพื่อใช้ทดสอบความเร็ว (Speed) และคุณภาพ (Quality of Service) ของอินเทอร์เน็ต ที่สามารถทดสอบได้ทั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband Internet) และโมบายอินเทอร์เน็ต (Mobile Broadband Internet) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทเอกชนในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งบริการมาตั้งแต่ปี 2003 ก่อนจะพัฒนามาเป็นโมบายล์แอปพลิเคชัน ทั้ง iOS  Android และ Windows ถือเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ใช้มากที่สุดในตลาด และได้รับความไว้ใจในหมู่ผู้ให้บริการโทรศัพท์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยสามารถให้ผลทดสอบอย่างละเอียด ทั้งในแง่ความเร็วในการดาวน์โหลด (Download Speed) อัปโหลด (Upload Speed)ค่าความหน่วงเวลา(Latency) และทดสอบเชิงคุณภาพของบริการ (Quality of Service) เช่นคุณภาพในการเปิดเว็บ (Browsing Test) คุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอ (Streaming Test) ซึ่ง nPerf ถือเป็นเครื่องมือที่ก้าวหน้าที่สุดตัวหนึ่งของโลกในปัจจุบัน โดยผลการทดสอบซึ่งจะมีค่าทางเทคนิคและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (Geo-Location) ของผู้ทดสอบ จะถูกรวบรวมไว้บน Cloud นอกจากนี้ nPerf มีรายงานคุณภาพของบริการอินเทอร์เน็ตของแต่ละ ISP ให้ผู้ใช้สามารถเรียกดู เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการให้บริการแบ่งตามเครือข่าย หรือภูมิภาคได้อย่างเปิดเผย ซึ่งรูปแบบการให้บริการทดสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตในลักษณะนี้นั้น นอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบของผู้ใช้เองแล้วนั้น ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้ให้บริการแข่งขันกันสร้างบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้นไปอีกด้วย

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://media.nperf.com/files/publications/TH/2023-01-16_mobile-connections-survey-nPerf-2022.pdf

 

#TrueTogether 

#TrueMoveH

#True5G



ถูกใจบทความนี้  0