Asus Zenfone 10 เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาพร้อมการปรับปรุงที่สำคัญหลากหลายจากรุ่นก่อนหน้านี้
เริ่มจากหน่วยประมวลผลใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ทำงานร่วมกับ RAM 16GB ซึ่งประมวลผลเร็วขึ้น 15% และมีประสิทธิภาพการเล่นเกมมากขึ้น 20% และรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ 4,300mAh ซึ่รองรับการชาร์จไร้สาย 15W Qi ในขณะที่ชาร์จไฟผ่านสายได้ 30W HyperCharge
หน้าจอมาแบบ AMOLED ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 144Hz refresh rate ซึ่งรองรับการเล่นเกมส์ได้สบายๆ และมีสีสันที่แม่นยำ ความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 1,100nits ปกป้องหน้าจอด้วย Gorilla Glass Victus
สีสันตัวเครื่องรุ่นนี้มีให้เลือกได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีเขียว,สีส้ม, และสีฟ้า
กล้องหลังรุ่นนี้ประกอบด้วยกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.56 นิ้ว ระยะ 24มม. ค่ารูรับแสง f/1.9 ซึ่งอัพเกรดการกันสั่นเป็น 6 แกนแบบ Hybrid และมี Ultrawide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับ Autofocus นอกจากนี้ทาง Asus ยังปรับปรุงการถ่ายภาพโหมดกลางคืนเพิ่มเติม
ระบบกันภาพสั่นไหวในกล้องหลักนั้นจะน่าประทับใจมากซึ่งมีความนิ่งเนียนไม่น้อยไปกว่าบน Zenfone 9 ที่เคยทำได้เลยโดยระบบจะจับการสั่นไหวด้วย gyroscope ในขณะที่ electronic image stabilization หรือ EIS ทำงานร่วมกับ OIS ทำให้กล้องขยับเพียงเล็กน้อยจึงให้ผลลัพธ์ภาพที่นิ่งสุดๆ นอกจากนี้ตัว Adaptive EIS ยังสามารถใช้การ Crop เข้าไปเพื่อให้นิ่งกว่าเดิมได้อีก (เหมือน Crop Sensor ให้ภาพแคบลงไปเพื่อให้การถ่ายวิดีโอนิ่งมากขึ้น)
Zenfone 10 ยังมีโหมดถ่ายไฟหรือ Light trail ที่สามารถใช้ถ่ายไฟจราจร, ไฟแบบกราฟิตี้ และการลาก exposure ยาวๆ ไว้ถ่ายน้ำตกหรือจะถ่ายคนในแบบเคลื่อนไหวก็ได้เช่นกัน
ในกล่องรุ่นนี้จะมีอุปกรณ์มาให้ทั้งสาย USB-C, Charger และ bumper case ด้วย
สำหรับราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ €849 (32,500 บาท) สำหรับ 8/128GB, €929 (35,500 บาท) สำหรับ 16/256GB และตัวท็อปไม่ระบุราคาแต่มี RAM/Storage 16/512GB
You must be logged in to post a comment.