Snapdragon 8s Gen 3 เปิดตัวด้วย Cortex-X4 core ทรงพลังจนอาจเรียกได้ว่า Flagship Killer ปีนี้

Qualcomm เปิดตัวหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่นอกเหนือจากการใช้คำว่า + ไปใช้งานตัว s แทนโดยชิปเซ็ตใหม่นี้มาในชื่อ Snapdragon 8s Gen 3

Chipset Snapdragon 8 Gen 2 Snapdragon 8s Gen 3 Snapdragon 8 Gen 3
Node TSMC 4nm TSMC 4nm TSMC 4nm
CPU (Prime) 1x Cortex-X3 @ 3.2/3.36GHz 1x Cortex-X4 @ 3.0GHz 1x Cortex-X4 @ 3.3/3.4GHz
CPU (Big) 2x Cortex-A715 @ 2.8GHz 4x Cortex-A720 @ 2.8GHz 3x Cortex-720 @ 3.15GHz
2x Cortex-A710 @ 2.8GHz 2x Cortex-720 @ 2.96GHz
CPU (Small) 3x Cortex-A510 @ 2.0GHz 3x Cortex-A520 @ 2.0GHz 2x Cortex-A520 @ 2.3GHz
RAM up to 24GB LPDDR5x 4,200MHz up to 24GB LPDDR5x 4,200MHz up to 24GB LPDDR5x 4,800MHz
Storage UFS 4.0 UFS 4.0 UFS 4.0
USB USB 3.1 USB 3.1 Gen 2 USB 3.1 Gen 2
GPU Adreno 740 Adreno 735 Adreno 750
5G modem X70 X70 X75
ISP triple 18-bit triple 18-bit triple 18-bit
Video 8K HDR @ 30fps 4K HDR @ 60fps 8K HDR @ 30fps
4K @ 120fps 1080p @ 240fps 4K @ 120fps

จากตารางข้างต้นจะเห็นว่า 8s Gen 3 นั้นมี Cortex-X4 ที่ความเร็ว 3.0GHz ต่ำกว่า 8 Gen 3 เสียอีกและยังมีการปรับ CPU เป็น 1+4+3 จากเดิมที่เป็น 1+5+2 ด้วย ส่วน RAM นั้นรองรับเหมือนกับ 8 Gen 2 และยังมีการใช้ Modem 5G รุ่นเดิมมาในชิปเซ็ตใหม่นี้ด้วย

แม้ภาพรวมจะดูใกล้กับ Gen 2 มากขึ้นทว่ารุ่นใหม่นี้รองรับ Wi-Fi 7, ที่จะสามารถรองรับ bandwidth ได้มากขึ้นและ low latency ยิ่งกว่าเคย โดยสำหรับเพลงนั้นรองรับ lossless wireless streaming 15-bit 44.1kHz

Generative AI ของรุ่นใหม่นี้สามารถทำงานบนโมเดลฮอตฮิตทั้งหลายอาทิเช่น Llama 2, Baichuan-7B และ Gemini Nano โดยรองรับมากถึงหมื่นล้านพารามิเตอร์ ซึ่งแม้ในภาพรวมอาจไม่สู้ Snapdragon 8 Gen 3 แต่ก็ยังดีกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง 8 Gen 2 พอสมควร ซึ่งเคลมไว้เลยว่าชิปนี้จะมีประสิทธิภาพด้าน AI ไม่ต่างจากเรือธง รวมถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมเองก็อยู่ในระดับเรือธงด้วย

สำหรับหน่วยประมวลผลภาพนั้นมี 18-bit ISP 3 ตัว พร้อมกับ Hexagon NPU ซึ่งจะช่วยกันเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายในที่มืดได้มากขึ้นอีก ในทางเทคนิคนั้นก็คือสามารถใช้งานกล้อง 36MP 3 ตัวที่ 30fps โดยเป็น zero shutter lag ได้ หรือเลนส์เดียว 108MP แบบไม่มี shutter lag เลยก็ได้ และสามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 200MP ทั้งในรูปแบบ 10-bit HEIC  HEVC ส่วนวิดีโอรองรับ 4K HDR 60fps

หน้าจอรองรับมากสุดที่ความละเอียด QHD+ 144Hz หรือ 4K 60Hz และรองรับการต่อจอนอกที่ 8K 30Hz หรือ Full HD 240Hz และปัจจุบันมีแบรนด์ที่พร้อมใช้งานชิปเซ็ตดังกล่าวแล้วทั้งทาง Honor, iQOO, Realme และ Xiaomi แต่จากสเปคน่าจะมีราคาต่ำกว่าพวกเรือธงเล็กน้อยล่ะมั้ง

Source



ถูกใจบทความนี้  0