มาพรีวิวกันก่อน กับ Mi Band 5 ที่เปิดขายในจีน และจะใช้ชื่อ Mi Smart Band 5 สำหรับ Global ซึ่งเอาจริงๆ ก็เรียกติดปากว่า Mi Band 5 ล่ะนะ จริงๆ รูปร่างไม่ต่างจาก Mi Band 4 สักเท่าไหร่ แต่ก็แน่นอนครับว่า รุ่นใหม่กว่า ก็ปรับปรุงจากเดิมกันไป หลักๆ ก็มีเรื่องหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เซ็นเซอร์ที่มีการแทรคที่แม่นยำขึ้น แอคทิวิตี้ กีฬาที่มากขึ้น 11 อย่าง รองรับการเตือนวันนั้นของเดือนของผู้หญฺิง มีค่า PAI ที่บ่งบอกสุขภาพ เป็นชัทเตอร์กล้อง Smartphone แบบไร้สายได้ และอีกเพียบ ซึ่งราคาก็ไม่หนีจากเดิม และใครที่กำลังเล็งอยู่ตั้งแต่รุ่น 3 ล่ะก็ ได้เวลาอัพเกรดกันแล้วล่ะ
Display | 1.1-นิ้ว หน้าจอเป็น AMOLED 2.5D color touchscreen ความละเอียด 126 x 294 pixel |
Water resistance rating | 5ATM |
Sensors | Heart rate sensor SpO2 sensor NFC (เฉพาะรุ่น) Accelerometer Barometer Proximity sensor |
Battery | 100mAh 14 วัน (ตามระบุ) |
Connectivity | Bluetooth 5.0 |
Sports modes and tracking | Outdoor running Treadmill Cycling Walking Freestyle Pool swimming Elliptical (New) Rowing machine (New) Jump rope (New) Indoor cycling (New) Yoga (New) Sleep PAI Health Suite Blood Oxygen Heart rate Women’s health |
Alerts and controls | Calls Message App notifications Alarms Calendar Music controls Remote camera control Find my phone |
Charging method | แบบแม่เหล็ก |
Colors | ดำ, ฟ้า, ชมพู, ส้ม, ม่วง, เหลือง, เขียว, เทา |
เอาเป็นว่าอัพเกรดกันปีละหนก็แล้วกันนะ สำหรับ Mi Band ผมว่าก็คุ้มอยู่ สักแปดเก้าร้อยบาท ใช้ไปปีนึง ก็จะได้ฟีเจอร์ใหม่ขึ้น แทรครายละเอียดได้มากขึ้นอะไรแบบนี้ วันนี้มาพรีวิวกันก่อนแล้วกันนะ
สำหรับ Mi Band 5 มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเดิม (Mi Band 4) ซึ่งขนาดอยู่ที่ 1.1 นิ้ว ของเดิม 0.95 นิ้ว การแสดงผลยังเป็นสีเหมือนเดิม บรรทัดในการแสดงผลเท่ากัน แต่ก็จะมีขนาดใหญ่กว่านิดนึง
หน้าตาของ watch face หรือหน้าปัทม์ มีให้เลือกมากขึ้นนะ เดิมมี 77 ธีมให้เลือก (ก็เยอะแล้ว) Mi Band 5 จัดให้ 100 ธีมขึ้นไป ก็ต่อยอดจากเดิมนั่นล่ะ แต่ทว่า Mi Band 5 ที่ขายในช่วงแรก หากใครสอยในช่วงนี้ก็คือจะเป็นภาษาจีนล้วน ถ้าไม่รีบรอ Global ดีกว่า
ภาษาจีนที่อ่านไม่ออก ฮ่ะๆ คือในจีนเค้าจะรองรับ Xiao-AI แต่งานนี้เราคงไม่ได้ใช้ Mi Band 5 ยังมาพร้อมกับหลากหลายสีให้เลือกมากขึ้น
แบตยังอึดได้ประมาณ 14 วัน อันนี้ต้องรอทดสอบใช้งานจริงอีกที เนื่องจากมีฟีเจอร์การวัดรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น เช่นวัดความดัน PAI (Personal Activity Intelligence) อันนี้การวัดมาตรฐานใหม่ที่มาไม่นาน ก็จับมาใส่ใน Mi Band 5 ด้วย การแทรคอัตตราการเต้นหัวใจทั้งวัน อันนี้ได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ แทรคการนอนที่ละเอียดมากขึ้น เช่นการงีบหลับที่แทรคได้เพิ่มเติมและมีความถูกต้องมากขึ้น
ค่า PAI คือค่า ที่บ่งบอกว่าสุขภาพเราดีแค่ไหน ฟิตหรือเปล่า โดยพิจารณาจากแอคทิวิตี้ของเราโดยรวม ไม่ใด้ขึ้นอยู่กับค่าใดค่าหนึ่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ แนะนำค่าที่เหมาะสมเอาไว้ที่ 100 ใครมีค่า PAI เฉลี่ย 100 นั่นหมายถึง ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจได้มากถึง 25%
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างนึงก็คือ การชาร์จแบบเป็นแถบแม่เหล็ก ติดง่าย แม้ว่าเจ้า Mi Band 4 จะแก้ปัญหาจากรุ่น Mi Band 3 ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็ยังเจอปัญหากันอยู่บ้าง คราวนี้คิดว่าน่าจะแก้ปัญหาการชาร์จได้ 100% แล้วล่ะ ยกเว้นสายหายนะ
โดยรวมแล้ว Mi Band 5 สิ่งที่แตกต่างคือการวัดด้านสุขภาพที่ละเอียด แม่นยำมากขึ้น กีฬารองรับมากขึ้น แบตที่ดูแล้วไม่น่าจะอึดขึ้น น่าจะใกล้เคียงหรือพอๆ กับรุ่น Mi Band 4 ฟีเจอร์หลักทั่วไป ยังคงเหมือนกับ Mi Band 4 น่าจะ 70-80% เลยนะ รูปร่างภายนอกเหมือนกัน ขนาดต่างกันนิดหน่อย ยังคงต้องดูว่า สามารถใส่สายเดิมได้หรือไม่ อันนี้ทุกเวอร์ชั่นที่ออกมา ส่วนใหญ่จะใส่ด้วยกันไม่ได้ แต่สำหรับ Mi Band 3 และ Mi Band 4 ใช้ด้วยกันได้ แต่บน Mi Band 5 นี่เดี๋ยวต้องดูอีกทีว่าได้หรือไม่ แต่โดยรวมราคาไม่เกินพันนึง ถ้าสั่งกันตอนนี้ที่จีน ก็หลากหลายราคาล่ะนะ แล้วแต่หาได้ แต่เปิดตัวประมาณ 800 บาทเท่านั้น เอง
I came across a website called Qweetly.com. I was surprised to find there many samples of various academic writings. No need to pay to read them.
https://qweetly.com/